นักฟุตบอลทีมชาติ อิหร่าน ร่วมใจไม่ร้องเพลงชาติในการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบแรกที่กาตาร์ เพื่อคัดค้านรัฐบาลที่ให้กำลังทหารล้มล้างการชุมนุมเพื่อสิทธิมนุษยชนในประเทศ ด้านทีมชาติอังกฤษร่วมคุกเข่าแสดงความสนับสนุน ขณะที่สมาคมฟุตบอลหลายชาติในยุโรปออกแถลงการณ์เบรกบรรดากัปตันทีมที่จัดเตรียมสวมสายรัดต้นแขน ‘1 Love’ ส่งเสริมสิทธิ LGBTQ+ หวั่นถูกแบนจากการแข่งขัน
22 เดือนพฤศจิกายน 2565 สำนักข่าว CNN รายงานว่าในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์เมื่อวานนี้ (21 เดือนพฤศจิกายน 2565) นักฟุตบอลทีมชาติอิหร่านร่วมใจไม่ร้องเพลงชาติก่อนเริ่มการแข่งขันกับทีมชาติอังกฤษ เพื่อแสดงออกว่าพวกเขาช่วยเหลือการคัดค้านต่อต้านรัฐบาลอิหร่านภายใต้การนำของอิบราฮีม ไรซี ประธานาธิบดีคนเดี๋ยวนี้ที่ชนะเลือกตั้งเมื่อเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา และมีแนวคิดอนุรักษ์นิยมสุดขั้ว
เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษ รายงานเพิ่มเติมว่าในช่วงที่เพลงชาติอิหร่านดังขึ้นก่อนเริ่มการแข่งขันนั้น มีแค่เจ้าหน้าที่คนหนึ่งที่อยู่รอบๆขอบสนามที่เปล่งเสียงร้องเพลงชาติ ขณะที่ผู้ชมชาวอิหร่านที่อยู่ในสนามส่งเสียงโห่ระหว่างเพลงชาติเล่นเพลง นอกเหนือจากนี้ ผู้ชมชาวอิหร่านบางส่วนยังชูป้ายที่เขียนใจความว่า “ผู้หญิง ชีวิต และอิสระ” และบางส่วนตะโกนชื่อของ ‘อาลี คาริมี’ โค้ชและอดีตผู้เล่นชาวอิหร่านที่แสดงออกชัดเจนว่าเขาช่วยเหลือการประท้วงพร้อมเรียกร้องให้ชาวอิหร่านออกมาคัดค้านบนท้องถนนในเมืองมาฮาบัดซึ่งถูกกองกำลังทหารยึดครองและเป็นเมืองที่ชาวอิหร่านเชื้อสายเคิร์ดอาศัยอยู่เยอะมาก
เหตุการณ์คัดค้านของนักฟุตบอลทีมชาติ อิหร่าน
ในการแข่งขันฟุตบอลโลกคราวนี้ได้รับการรายงานข่าวอย่างเปิดเผย ในสื่อของอิหร่านที่ช่วยเหลือการคัดค้าน โดยพวกเขาบอกว่าการคัดค้านไม่{ร้องเพลง|ขับร้องเพลงชาตินับว่าเป็นความเสื่อมเสียในสายตานานาชาติ ขณะที่สื่อฝ่ายสนับสนุนรัฐบาลอิหร่านไม่มีการรรายงานข่าวการคัดค้านของนักฟุตบอล มีเพียงการรายงานข่าวผลการแข่งขัน ซึ่งอังกฤษชนะอิหร่าน 6-2 นอกเหนือจากนี้ยังมีรายงานว่า QTV ซึ่งเป็นสถานีโทรทัศน์สาธารณะของกาตาร์ตัดภาพช่วงที่มีการคัดค้านของนักฟุตบอลอิหร่าน
ดังนี้ ยังไม่มีการประกาศออกมาอย่างแน่ชัดว่านักฟุตบอลทีมชาติอิหร่านควรต้องต้องโทษ หรือ มีความผิดจากการคัดค้านไม่ร้องเพลงชาติเมื่อเดินทางกลับถึงอิหร่าน แต่การ์ลอส ไกรอซ ผู้จัดการทีมชาติอิหร่านซึ่งเป็นชาวโปรตุเกสกล่าวว่านักฟุตบอลมีเสรีภาพสำหรับในการคัดค้าน โดยก่อนหน้าที่ผ่านมา สำหรับในการแถลงข่าวก่อนเริ่มการแข่งขัน อีห์ซาน ฮัจซาฟี กัปตันทีมชาติอิหร่านเป็นผู้เล่นคนแรกที่แสดงออกว่าเขาช่วยเหลือการคัดค้าน โดยเขากล่าวว่า “พวกเขาควรรู้ว่าเราอยู่ข้างพวกเขา เราสนับสนุนพวกเขา และเห็นด้วยกับพวกเขาไม่ว่าจะอยู่ในเงื่อนไขใด … เราต้องยอมรับว่าสถานการณ์ของประเทศเราไม่ถูกต้อง และประชาชนไม่มีความสุข เราอยู่ที่นี่ (กาตาร์) แต่ไม่ได้หมายความว่าเราไม่ควรเป็นกระบอกเสียงให้พวกเขา หรือ ไม่ควรเคารพพวกเขา”
หลังการแข่งขันระหว่างทีมชาติอังกฤษ และ อิหร่านจบลง มีรายงานว่าโปสเตอร์ของทีมชาติอิหร่านในกรุงเตหะราน เมืองหลวงของอิหร่าน ถูกปลดลงในทันที เวลาเดียวกัน มีการเผยแพร่วิดีโอประชากรในกรุงเตหะรานแผดเสียงตะโกน “เผด็จการจงพินาศ” หลังทราบผลการแข่งขัน
การแข่งขันฟุตบอลโลกระหว่างทีมชาติอิหร่านและ อังกฤษเกิดขึ้นในช่วงเดียวกับที่กองกำลังความยั่งยืนมั่นคงอิหร่านใช้อาวุธจริงสลายการชุมนุมในเมืองต่างๆที่ชาวอิหร่านเชื้อสายเคิร์ดอาศัยอยู่ ดังเช่นว่า เมืองปิรันชาหร์ในจังหวัดอาเซอร์ไบจานตะวันตก เมืองชวานรุดในจังหวัดเคร์มอนชอฮ์ และ อีกหลายเมืองในจังหวัดเคอร์ดิสถาน ซึ่งปรากฏภาพคนบาดเจ็บและผู้ตายไม่น้อยเลยทีเดียวบนท้องถนน เมื่อวันเสาร์ และ อาทิตย์ที่ผ่านมามีรายงานว่ามีประชากรเสียชีวิต 11 รายจากการสลายการรวมกันในเมืองมาฮาบัดซึ่งมีการใช้รถถังติดอาวุธรวมถึงอาวุธสงครามอื่นๆเพื่อกำจัดผู้รวมกัน โดยทางการอิหร่านอ้างถึงว่าเป็นไปตามการประกาศใช้กฎอัยการศึก
ด้านกลุ่มองค์กรเพื่อสิทธิมนุษยชนบอกว่าเจ้าหน้าที่ความมั่นคงยั่งยืนของอิหร่านปริมาณ 55 คน เสียชีวิตนับตั้งแต่มีการคัดค้านครั้งใหญ่ในปีนี้ ขณะที่ประชากรชาวอิหร่านเสียชีวิตมากยิ่งกว่า 450 คน โดยเหตุคัดค้านมีต้นเหตุที่เกิดจากความรู้สึกไม่พึงพอใจของประชากรชาวอิหร่านที่มีต่อรัฐบาลหลังจาก ‘มาห์ซา อามีนี’ หญิงชาวอิหร่านเชื้อสายเคิร์ดวัย 22 ปีเสียชีวิตขณะถูกตำรวจกักคุมในข้อหาไม่สวมฮิญาบ
การคัดค้านของชาวอิหร่านในคราวนี้ถือได้ว่าเป็นการคัดค้านใหญ่ในรอบยาวนานหลายปี และมีผู้มีชื่อเสียงชาวอิหร่านจากหลากหลายวงการจำนวนไม่น้อยที่แสดงออกว่าไม่เห็นพ้องกับรัฐบาลและการใช้อาวุธการสู้รบสำหรับในการกำจัดผู้รวมกัน เป็นเหตุให้คนที่ใครๆก็รู้จักคนจำนวนไม่น้อยถูกจับจับฟ้องร้องคดี ดังเช่นว่า เฮนกาเมห์ คาเซียนี และคาตาโยน เรียฮี ดาราหนังชาวอิหร่านที่ถูกจับกุมในข้อหายุยงปลุกปลั่นผ่านทางสื่อโซเชียล ขณะที่คนที่ใครๆก็รู้จักเล็กน้อย ดังเช่นว่า ฮุนเซน ซูรี นักมวยสากลชาวอิหร่านพร้อมสตาฟฟ์อีก 2 คนจำเป็นต้องทำเรื่องขอลี้ภัยเนื่องจากไม่อาจจะเดินทางเข้าประเทศอิหร่านได้
กัปตันอังกฤษ-เยอรมนี ถูกเบรกคัดค้านบอลโลก 2022
ฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์เป็นเจ้าภาพนับว่าเป็นหนึ่งในมหกรรมกีฬาที่มีข้อถกเถียงเกี่ยวกับประเด็นการเมืองและสิทธิมนุษยชนมากมาย ที่สุดกาลครั้งหนึ่งของโลก เป็นต้นว่า ข้อกำหนดการขายเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ หรือ กฎข้อบังคับการแต่งกายของผู้เข้าชม รวมถึงประเด็นการบังคับใช้แรงงานสำหรับในการก่อสร้างสนามฟุตบอล ความโปร่งใสสำหรับในการได้รับเลือกสรรเป็นเจ้าภาพ และการติดสินบนทีมฟุตบอลชาติอื่น จนเกิดการแย้งและมีการแสดงออกถึงความเป็นด้วยจากหลายภาคส่วน รวมถึงทีมฟุตบอลที่เข้าร่วมแข่ง
ไม่เพียงแค่ทีมชาติอิหร่านแค่นั้นที่แสดงออกทางการเมืองในการแข่งขัน แต่ในนัดเปิดศึก 2 วันแรก ทีมชาติอังกฤษและเยอรมนียังได้ร่วมแสดงออกว่าไม่เห็นพ้องกับกฎต่างๆของเจ้าภาพกาตาร์ซึ่งละเมิดสิทธิมนุษยชน ก่อนหน้าที่ผ่านมา แฮร์รี เคน กัปตันทีมชาติอังกฤษประกาศว่าเขาจะใส่สายรัดต้นแขนสีรุ้งที่เขียนใจความ “1 Love” เพื่อช่วยเหลือสิทธิกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQ+) และเพื่อแสดงออกว่าไม่เห็นด้วยกับกฎหมายของกาตาร์ที่ต่อต้านกลุ่มคนเหล่านี้ เว้นเสียแต่ทีมชาติอังกฤษแล้ว ยังมีเวลส์ เบลเยียม สวิสเซอร์แลนด์ เยอรมนี และเดนมาร์ก ที่ผู้เล่นจัดเตรียมจะสวมสายรัดต้นแขนเพื่อแสดงเครื่องหมายทางการเมืองและสิทธิมนุษยชนแทนการใส่สายรัดต้นแขนของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า (FIFA)
กัปตันทีมชาติอังกฤษไม่ได้สวมสายรัดต้นแขน 1 Love แต่เปลี่ยนมาสวมสายรัดต้นแขนสีดำที่มีข้อความสีเหลือง เขียนว่า “No Discrimination” (อย่าเลือกปฏิบัติ) ขณะที่ตัวเขาและผู้เล่นทีมชาติอังกฤษคนอื่นๆ ได้ร่วมกันคุกเข่าเป็นเวลา 3 วินาทีก่อนเริ่มการแข่งขัน เพื่อสนับสนุนนักฟุตบอลทีมชาติอิหร่าน โดยกาเร็ธ เซาท์เกต ผู้จัดการทีมชาติอังกฤษให้สัมภาษณ์กับสื่อว่าเขาเข้าใจสถานการณ์ของฟีฟ่า และการตัดสินใจของกัปตันทีมชาติอังกฤษไม่ใช่เรื่องที่ตัวเขาและผู้เล่นคนอื่นๆ มีส่วนร่วม
ด้านกัปตันทีมชาติเยอรมนีที่ก่อนหน้านี้ยืนยันว่าเขาจะสวมปลอกแขนสีรุ้งเพื่อสนับสนุนสิทธิกลุ่ม LGBTQ+ ดังที่เขาเคยสวมในการแข่งขันฟุตบอลยูโรเมื่อ 2 ปีก่อน แต่ภายหลังสมาคมฟุตบอลหลายชาติในยุโรปออกแถลงการณ์ล่าสุดก่อนเปิดการแข่งขันนัดแรกเมื่อวานนี้ ทำให้นอยเออร์ตัดสินใจไม่สวมสายรัดต้นแขน 1 Love ในการแข่งขันที่กำลังจะมีขึ้น ซึ่งการตัดสินใจดังกล่าวของผู้เล่น รวมถึงถ้อยแถลงของสมาคมทำให้แฟนบอลของแต่ละประเทศแสดงความผิดหวังและวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของฟีฟ่าอย่างกว้างขวาง